การเลือกและการออกแบบระบบฟิลเตอร์
การเลือกและการออกแบบระบบฟิลเตอร์ที่เหมาะสมถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้การทำงานในโรงงานมีประสิทธิภาพสูงสุด ป้องกันความเสียหายต่อเครื่องจักร และลดต้นทุนการผลิต นี่คือสิ่งที่คุณต้องพิจารณา:
1. หลักการเลือกฟิลเตอร์
การเลือกฟิลเตอร์ที่ถูกต้องต้องพิจารณาจากคุณสมบัติของของเหลวหรืออากาศที่ต้องการกรอง รวมถึงผลลัพธ์ที่คาดหวัง:
- ขนาดอนุภาค (Micron Rating):(Multi-layer aluminum mesh):
- Nominal Micron Rating: บอกขนาดอนุภาคโดยประมาณที่ฟิลเตอร์สามารถดักจับได้ เช่น ฟิลเตอร์ 10 ไมครอน อาจดักจับอนุภาค 10 ไมครอนได้ในระดับหนึ่ง (เช่น 90%)
- Absolute Micron Rating: บอกขนาดอนุภาคที่ฟิลเตอร์สามารถดักจับได้เกือบทั้งหมด (เช่น 99.9%) ค่านี้มีความสำคัญมากในกระบวนการที่ต้องการความสะอาดสูง เช่น การผลิตยาหรืออิเล็กทรอนิกส์
- สิ่งปนเปื้อนที่ต้องการกำจัด: คุณจำเป็นต้องทราบว่าสิ่งปนเปื้อนที่คุณต้องการกำจัดมีขนาดเท่าไหร่ เพื่อเลือกฟิลเตอร์ที่มีความละเอียดเหมาะสม
- อัตราการไหล (Flow Rate):
- ฟิลเตอร์แต่ละตัวถูกออกแบบมาให้รองรับอัตราการไหลสูงสุดที่แตกต่างกัน การเลือกฟิลเตอร์ที่รองรับอัตราการไหลต่ำเกินไปจะทำให้เกิดแรงดันตก (pressure drop) สูงและฟิลเตอร์อุดตันเร็ว
- ต้องมั่นใจว่าฟิลเตอร์ที่เลือกสามารถรองรับอัตราการไหลของระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- อุณหภูมิ (Temperature) และแรงดัน (Pressure):
- วัสดุของฟิลเตอร์และโครงสร้างต้องทนทานต่ออุณหภูมิและแรงดันที่ใช้งานจริงในระบบ เพื่อป้องกันความเสียหาย การรั่วไหล หรือการเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร
- อุณหภูมิที่สูงเกินไปอาจทำให้วัสดุของฟิลเตอร์อ่อนตัวหรือละลายได้ ส่วนแรงดันที่สูงเกินไปอาจทำให้ฟิลเตอร์แตกหรือฉีกขาด
- คุณสมบัติทางเคมี (Chemical Compatibility):
- ต้องแน่ใจว่าวัสดุของฟิลเตอร์และโครงสร้างเข้ากันได้ดีกับสารเคมีหรือของเหลวที่ไหลผ่าน เพื่อป้องกันการกัดกร่อน การบวม หรือการปนเปื้อนจากตัวฟิลเตอร์เอง
- ความสามารถในการกักเก็บสิ่งสกปรก (Dirt Holding Capacity):
- เป็นตัวบ่งชี้ว่าฟิลเตอร์สามารถดักจับสิ่งสกปรกได้มากแค่ไหนก่อนที่จะต้องเปลี่ยนหรือทำความสะอาด ฟิลเตอร์ที่มีความสามารถในการกักเก็บสูงจะช่วยยืดอายุการใช้งานและลดความถี่ในการบำรุงรักษา
2. การออกแบบระบบฟิลเตอร์
นอกจากการเลือกฟิลเตอร์แต่ละชิ้นแล้ว การออกแบบระบบโดยรวมก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน:
- การคำนวณขนาดและจำนวนฟิลเตอร์:
- คำนวณจากอัตราการไหลที่ต้องการ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบสามารถกรองได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่เกิดแรงดันตกมากเกินไป
- บางครั้งอาจจำเป็นต้องใช้ฟิลเตอร์หลายตัวขนานกัน หรือใช้ฟิลเตอร์หลายขั้นตอน (Multi-stage filtration) เช่น การกรองหยาบก่อนกรองละเอียด เพื่อยืดอายุการใช้งานของฟิลเตอร์ขั้นสุดท้าย
- การจัดวางในระบบเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด:
- ตำแหน่งของฟิลเตอร์: ควรติดตั้งในตำแหน่งที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับการบำรุงรักษา และอยู่ในจุดที่สิ่งปนเปื้อนมีโอกาสเข้ามาในระบบมากที่สุด หรือก่อนเข้าอุปกรณ์สำคัญที่ต้องป้องกัน
- การไหล: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการไหลของของเหลวหรืออากาศเป็นไปอย่างราบรื่นผ่านฟิลเตอร์ เพื่อลดแรงดันตก
- ระบบ Bypass:
- การติดตั้งวาล์ว Bypass รอบๆ ฟิลเตอร์ช่วยให้ระบบยังคงทำงานต่อไปได้ในขณะที่ทำการบำรุงรักษา เปลี่ยน หรือทำความสะอาดฟิลเตอร์ ซึ่งช่วยลด Downtime ของการผลิต
- การป้องกันแรงดันตก (Pressure Drop Monitoring):
- ติดตั้งเกจวัดแรงดันทั้งก่อนและหลังฟิลเตอร์ เพื่อตรวจสอบแรงดันตก การที่แรงดันตกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็นสัญญาณว่าฟิลเตอร์เริ่มอุดตันและจำเป็นต้องเปลี่ยนหรือทำความสะอาด
- การพิจารณาถึงความสะดวกในการบำรุงรักษา:
- ออกแบบระบบให้ง่ายต่อการเข้าถึง การถอดเปลี่ยน หรือการทำความสะอาดฟิลเตอร์ เพื่อลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
- มาตรฐานและข้อกำหนดเฉพาะ:
- มาตรฐานอุตสาหกรรม: ควรปฏิบัติตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมของคุณ เช่น มาตรฐาน ISO สำหรับระบบการจัดการคุณภาพ หรือมาตรฐาน ASTM สำหรับการทดสอบวัสดุ
- ข้อกำหนดด้านสุขอนามัย: ในอุตสาหกรรมอาหาร ยา หรือเครื่องดื่ม ฟิลเตอร์และระบบต้องเป็นไปตามข้อกำหนดด้านสุขอนามัยที่เข้มงวด เช่น FDA (Food and Drug Administration) หรือ GMP (Good Manufacturing Practice)
📌 สรุป:
การลงทุนในการเลือกและออกแบบระบบฟิลเตอร์ที่ดีในตอนเริ่มต้น จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ลดปัญหาการผลิต และเพิ่มความน่าเชื่อถือของระบบโดยรวมในโรงงานของคุณ







CONTACT US
Ananta Group Trading Ltd., Part.
79 ซอยบางนา-ตราด16 แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพ 10260
email: anantagrouptrading@gmail.com
Hot line: 081-172-1566, 065-056-2564