shadow

🏭เลือกฟิลเตอร์อย่างไรให้เหมาะกับงานของคุณ: Pre-Filter vs. Medium Filter vs. HEPA Filter

การเลือกใช้ระบบกรองอากาศที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาคุณภาพอากาศและป้องกันการปนเปื้อนในสภาพแวดล้อมต่างๆ ตั้งแต่โรงงานอุตสาหกรรมไปจนถึงห้องผ่าตัด ฟิลเตอร์แต่ละชนิดถูกออกแบบมาเพื่อดักจับอนุภาคที่มีขนาดแตกต่างกัน และมีบทบาทเฉพาะในระบบ HVAC (Heating, Ventilation, and Air Conditioning) หรือระบบอากาศบริสุทธิ์ (Clean Air System)
ฟิลเตอร์สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มหลักตามระดับประสิทธิภาพการกรอง คือ Pre-Filter (ฟิลเตอร์ขั้นต้น), Medium Filter (ฟิลเตอร์ปานกลาง), และ HEPA Filter (ฟิลเตอร์ประสิทธิภาพสูง)

1. Pre-Filter (ฟิลเตอร์ขั้นต้น)

Clean Room Filter, Pre Filter, Aluminium Frame, Panel Filter

Pre-Filter (ฟิลเตอร์ขั้นต้น) ทำหน้าที่เป็นด่านแรกในการดักจับอนุภาคขนาดใหญ่ เช่น ฝุ่นหยาบ เส้นใย หรือละอองเกสร เพื่อ ปกป้องฟิลเตอร์ขั้นถัดไป (Medium และ HEPA) ไม่ให้อุดตันเร็วเกินไป ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของฟิลเตอร์ที่มีราคาสูงกว่า

  • มาตรฐานที่พบบ่อย: G4 (ตามมาตรฐาน EN 779)
  • วัสดุ: มักทำจากใยสังเคราะห์ (Synthetic Fiber) หรือใยแก้ว (Fiberglass)
  • ขนาดอนุภาคที่กรองได้โดยประมาณ: > 5 ไมโครเมตร (μm)

2. Medium Filter (ฟิลเตอร์ปานกลาง)

Medium Filter (ฟิลเตอร์ปานกลาง) เป็นฟิลเตอร์ในขั้นที่สอง มักติดตั้งหลัง Pre-Filter ทำหน้าที่ดักจับอนุภาคขนาดเล็กและละเอียดขึ้น ที่เล็ดลอดมาจากขั้นต้น เพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศในระดับทั่วไปถึงระดับที่ต้องการความสะอาดปานกลาง

  • มาตรฐานที่พบบ่อย: F5, F7, F8 (ตามมาตรฐาน EN 779) หรือ MERV 10-14 (ตามมาตรฐาน ASHRAE)
  • วัสดุ: ใยสังเคราะห์ความหนาแน่นสูง หรือใยแก้วละเอียด
  • ขนาดอนุภาคที่กรองได้โดยประมาณ: 0.4 – 5 ไมโครเมตร (μm) เช่น ฝุ่นละเอียด เชื้อรา แบคทีเรียบางชนิด

3. HEPA Filter (ฟิลเตอร์ประสิทธิภาพสูง)

HEPA Filter (ฟิลเตอร์ประสิทธิภาพสูง) หรือ High Efficiency Particulate Air เป็นฟิลเตอร์ที่มีประสิทธิภาพในการกรองสูงสุด ถูกใช้ในขั้นตอนสุดท้ายที่ต้องการความบริสุทธิ์ของอากาศระดับสูงมาก HEPA Filter ไม่ได้กรองแค่ฝุ่น แต่สามารถกรองเชื้อโรคและอนุภาคขนาดเล็กพิเศษได้

  • มาตรฐานที่พบบ่อย: H13, H14 (ตามมาตรฐาน EN 1822)
  • วัสดุ: ใยแก้วละเอียด (Micro-Fiberglass) ที่จัดเรียงตัวหนาแน่น
  • ขนาดอนุภาคที่กรองได้โดยประมาณ: ≤ 0.3 ไมโครเมตร (μm) HEPA Filter ได้รับการออกแบบให้มีประสิทธิภาพในการดักจับอนุภาคขนาด 0.3 μm (ซึ่งเป็นขนาดที่ยากต่อการกรองที่สุด หรือ MPPS – Most Penetrating Particle Size) ได้ถึง 99.95% (สำหรับ H13) หรือสูงกว่านั้น

ตารางเปรียบเทียบประเภทฟิลเตอร์และการใช้งานที่เหมาะสม

คุณสมบัติPre-Filter (G4)Medium Filter (F5 – F8)HEPA Filter (H13)
ระดับประสิทธิภาพ (มาตรฐาน EN)G4F5, F6, F7, F8H13
(หรือสูงกว่า)
ระดับการกรองอนุภาคหยาบ
(Coarse Dust)
ปานกลาง – ละเอียด
(Fine Dust)
สูงมาก
(Aerosols, Microorganisms)
ขนาดอนุภาคที่กรองได้≥ 5 Μm0.4 – 5 Μm≤ 0.3 Μm
ประสิทธิภาพขั้นต่ำ≥ 90%
(สำหรับอนุภาคใหญ่)
40% – 90%
(สำหรับอนุภาค 0.4 Μm)
≥ 99.95%
(สำหรับ 0.3 Μm)
วัสดุหลักใยสังเคราะห์/ใยแก้วหยาบใยสังเคราะห์ความหนาแน่นสูง/ใยแก้วละเอียดใยแก้ว Micro-Fiberglass
การใช้งานที่เหมาะสม🏢 โรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป (ดักฝุ่นใหญ่)
🏬 อาคารสำนักงาน (ด่านแรก) ระบบ HVAC ทั่วไป
🏭 โรงงานผลิต (ที่ไม่ใช่ Clean Room)
🏨 โรงพยาบาลทั่วไป (พื้นที่ที่ไม่วิกฤต)
🧪 ห้องปฏิบัติการทั่วไป
🏥 ห้องผ่าตัด (Surgical Suites)
🔬 Clean Room (อิเล็กทรอนิกส์, เภสัชกรรม)
☢️ ศูนย์วิจัยเชื้อโรค/สารกัมมันตรังสี
💊 อุตสาหกรรมยาและอาหาร
อายุการใช้งานสั้น
(ต้องเปลี่ยนบ่อย)
ปานกลางยาว
(หาก Pre-Filter ทำงานดี)
📌 สรุปและข้อควรจำ การเลือกฟิลเตอร์ต้องพิจารณาจาก “ความต้องการความสะอาดของพื้นที่” เป็นหลัก และใช้เป็นระบบที่มีลำดับขั้น (Multi-Stage Filtration) เสมอ โดยเริ่มจาก Pre-Filter เพื่อดักจับอนุภาคหยาบก่อน จากนั้นจึงใช้ Medium Filter และปิดท้ายด้วย HEPA Filter ในกรณีที่ต้องการอากาศบริสุทธิ์ระดับสูงสุด การทำเช่นนี้จะช่วยให้ระบบกรองอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่คุ้มค่าที่สุด

CONTACT US

Ananta Group Trading Ltd., Part.
79 ซอยบางนา-ตราด16 แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพ 10260 email: anantagrouptrading@gmail.com Hot line: 081-172-1566, 065-056-2564
error: